มหัศจรรย์เทศกาลหนังพี้ ครั้งที่ 3 กลับมาอีกครั้ง!!!
9-12 พฤศจิกายน 2566
__________________________________
ทำไมมหัศจรรย์หนังพี้
หนังพี้คืออะไร?นั่นคือคำถามแห่งวัน ขณะที่เรานั่งเรียงดูหนังที่ส่งมาทั้งหมด คำตอบไม่ใช่แค่วิกฤตหนุ่มเซอร์
หรือ ภาพจิตหลอนและบทสนทนาที่แปลกแยก แล้วเราก็เข้าใจว่า สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
เป็นหนังพี้ คือ มิติของความเป็นจริง การเฝ้าสังเกตการณ์จากระยะห่างๆ
จะเรียกว่าการปล่อยวางแบบเซนก็ได้
เราอาจไม่เห็นกัญชาบนจอในหนังทุกเรื่อง หรือมีเนื้อหาเกี่ยวข้องวัฒนธรรมกัญชาชน
แต่สิ่งที่ทุกเรื่องมีเหมือนกันหมดคือ รสชาติและมิติของสัจธรรมกัญชา(ซึ่งสามารถทำให้ผู้ป่วยมะเร็ง บางรายถึงกับไม่ชอบ เพราะหาว่ามันดลใจให้ยอมรับความจริง
ในการเกิดแก่เจ็บตาย)สาระสำคัญก็คือ : หากว่ามิติความเป็นจริงตามบรรทัดฐานของโลการ่วมสมัย อันเต็มไปด้วยการทิ่มแทงกันด้วยความจริงที่บิดเบือนนั้นกำลังเสียสติอย่างเห็นได้ชัด เหล่าศิลปิน นักทำหนัง และคอหนัง ก็ย่อมมีสิทธิ – ที่จริงต้องว่ามีหน้าที่ปฏิบัติธรรม– ในการกัดเซาะ หรือแม้กระทั่งปาภาพลวงตาสุดทนุถนอมนั้นลงกับพื้นให้แตกเป็นเสี่ยงๆรักคือคำตอบทุกสิ่งดร.อลิศ กินเห็ด
ผู้จัดโปรแกรม
มหัศจรรย์หนังพี้ที่ซิเนม่าโอเอซิส
__________________________________
เทศกาลจะฉายหนังทั้งหมด 2 โซน :
ภายในโรงหนัง และภายนอกโรงหนัง
ภายในโรงหนัง :
บัตรดูหนังราคา 160 บาท
บัตรดูหนังแบบเหมาทั้งวัน ราคา 420 บาท
*บัตรมีจำหน่ายหน้าโรงหนัง*
ภายนอกโรงหนัง :
ดูฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย (เริ่มฉายช่วงเวลาเย็น)
__________________________________
ตารางหนังเทศกาลหนังพี้ 2566
เห็นชัดว่าหนังที่ส่งเข้ามาปีนี้เกือบทั้งหมดมีลักษณะค่อนข้างขรึม ดูเหมือนว่าในปี 2566 แม้กระทั่งกัญชาชนยังทำหนังจริงจังเกี่ยวกับเนื้อหาที่เคร่งขรึม: ความตาย, ชนชั้น, ศิลปะ, เสรีภาพ, พระเจ้า ภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจและเบิกตาที่สามกลางหน้าผากเรา การหายไปของความไร้สาระจากหนังรุ่นนี้ชวนให้ขนลุก มันดูเหมือนการยอมรับความเป็นจริงที่พูดเล่นไม่ได้ของนาทีนี้ในโลก เป็นสุขเถิด เรากัญชาชนคือ รักและสันติภาพ ช่วยกันรักษาเสรีภาพของพืชศักดิ์สิทธิ์ของไทย อย่าลากเรากลับเข้าไปอยู่ในกรง
________________________________________________________________
8 หนังยาว
____________________________________________________________
เมดิซีนัล แคนนาบิส (กัญชาคือยารักษา)
อาร์เจนตินา
61 นาที
Sara Silvia Kochen, Emiliano Serraความงดงามของบรรดาผู้บุกเบิกการค้นคว้าเกี่ยวกับกัญชาในภาพยนตร์สารคดีชวนให้ตาสว่าง ด้วยความแน่นของเนื้อหาเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจแก่เรา ที่ว่านี้ไม่ใช่เพียงกลุ่มคุณแม่ที่มีลูกออทิสติกและลมชัก ที่ได้มีบทบาทสำคัญในการยกเลิกกฎหมายกดขี่ผู้ใช้กัญชา กลางใจของเรื่องคืออาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางเคมี กับโจทย์ค้นคว้า “รากฐานทางวิทยาศาสตร์ของกัญชา” โดยได้รับอนุญาตพิเศษจากตำรวจและรัฐบาล “เรายังไม่รู้ความแตกต่างทางเคมีในสมองของเรา ยามที่เราเป็นสุขและเป็นทุกข์” เขาอธิบายสารที่เขาเรียกว่า อนันตะไมด์จากสันสกฤต ‘อนันตมิดา’ “จักรกลของกัญชาคือปริศนาอันยิ่งใหญ่” ประโยคเด็ดอื่นๆ: “มันไม่ใช่ประตูบานแรกที่นำไปยาเสพติดร้ายแรง แต่เป็นทางออกจากการเสพติด – ที่พูดกันอย่างนั้นน่ะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภาพกัญชาให้เป็นผีปีศาจ” (หมอในโรงพยาบาล); “เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอะไรตลก” (แม่ของลูกชายออทิสติกที่หัวเราะเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อใช้กัญชารักษา); “คุณรักษาให้หายไม่ได้หรอกถ้าคุณไม่เมา” (ลุงฮิปปี้ปลูกกัญชา ผู้เบื่อล้าคำวิพากษ์ผลข้างเคียงของกัญชา)
________________________________________________________________
อิทส์อะแวร็พ (ปิดกล้อง)
อิสราเอล
56 นาที
อมิท มิลเลอร์ฮาย่าเชิญญาติมิตรมางานเลี้ยงอำลา – อำลาอะไร? “ชีวิตน่ะสิ” นางตอบเสียงใส เธอเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายและวางแผนที่จะตายอย่างมีศักดิ์ศรี เธอเริ่มกลืนไม่ได้จึงตัดสินใจที่จะเลิกกินข้าวและยา แต่เธอยังดูดปุ๊นมวนยักษ์ (“กัญชา – ดี”) และยังคงทาปากแดง ความนิ่งอันมุ่งมั่นของเธอนั้นทรงปัญญาและเป็นธรรมชาติ – และสมเหตุสมผลอีกด้วย: “ฉันกลัวความเจ็บปวดเท่านั้น อย่างอื่นฉันไม่กลัวเลย” นางจะตายอย่างแจ่มใสและสมเหตุผล แบบเดียวกับที่นางได้ใช้ชีวิต ซึ่งเรารับรู้เมื่อความลับของนางถูกเผยออกมา ไม่มีความกลัวตายมาแปดเปื้อนให้รักเป็นพิษ มันเหมือนปาฏิหาริย์ที่ได้ดูคุณยายนักดนตรีผู้งดงามเกินคำบรรยายอำลาโลกนี้โดยการสมานสันติภาพกับทุกคนในโลกของเธอ มันคือภาพยนตร์สารคดีที่แสนไม่ธรรมดาและมีชั้นเชิง และตรงข้ามกับซึมเศร้าโดยสิ้นเชิง.
____________________________________________________________
ฝนเลือด
ไทย
73 นาที
อชิตพนธิ์ เพียรสุขประเสริฐความสยองขวัญทางภาพยนตร์ของจริงมักมาจากความเข้าใจในระดับสัญชาตญาณ ในการเคลื่อนไหว ในรูปทรงที่แปลงร่างอย่างมีพิกล ซึ่งมีให้เห็นอย่างล้นหลามใน ‘ฝนเลือด’ ประสบการณ์ดูดกลืนกินวิญญาณที่สัมผัสได้อีกเรื่องหนึ่งจากผู้กำกับ ‘ปรำปรากากี’ ซึ่งไร้คำพูดและอลังการเช่นกัน ภาพไม่เปลือยแต่ใกล้บัดสีของมันจะเติดตามสิงสู่คุณ: ร่างคล้ายมนุษย์ห่อผ้าศพที่ตาแดงลุกวาว; พระจันทร์เสี้ยวหรือจันทรคราสที่แย้มและหุบยิ้มมีเลศนัย ราวกับปากร้ายบนท้องฟ้า; งูเหลือมพุงกางสีม่วงเรืองแสงที่หลุดออกมาจากกรอบรูปหรูทาทอง; ริมฝีปากผีดูดเลือดยักษ์สีแดงฉานที่กระเพื่อมดังเงาบนผิวน้ำ และดูดซับพลังชีวิตของเรา ทั้งหมดล้วนเล่นตรงกับกล้อง ใส่หน้าเราเต็มๆ ด้วยความเข้มข้นที่ไม่ลดราวาศอก ขณะที่รูปทรงแปลงร่างและสรรพสิ่งกลายมาเป็น ขณะที่เงามืดเริ่มมีชีวิตและเต้นตุ้บตุ้บด้วยพลังอันมุ่งมั่น ‘ฝนเลือด’ ได้นำเสนอรูปรสกลิ่นสีของการมองโลกแบบกลัวเกรงผีสางนางไม้แบบไทยๆ ในภูมิทัศน์ที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีชีวิตของมัน และกำลังเอื้อมมือมาหาเรา.
____________________________________________________________
สงัด
ไทย
77 นาที
คริสโตเฟอร์ จันวงศ์ แม็คคีแกนสามปีไม่มีงานแสดง โควิดล็อคดาวน์ทำให้ศิลปะการแสดงพื้นบ้านพื้นเมืองตกอยู่ในสภาพโคม่า โดยนักดนตรีอีสานเก่งๆหลายคนต้องไปทำงานก่อสร้างหาเลี้ยงชีพ ดาวเด่นคือคุณบุญมา ปรมาจารย์พิณอีสานผู้ตาบอดมาแต่เล็กและสอนตัวเองเล่นดนตรีจากการได้ยินคนอื่นเล่น คนต้องค่อยๆจูงเขามายังเก้าอี้พลาสติกสีแดงบนเวทีบ้านๆ แต่เมื่อเขาเริ่มเล่นดนตรี เขาคือเทพจากสวรรค์ เราเห็นเขาดีดพิณบนรถเข็นโทรมๆที่เมียไม่สาวช่วยเข็นไปตามถนน การบีบรัดของหน้ากากกันเชื้อทำให้สีหน้าของเขาเหมือนขมขื่นและงุนงง ขณะที่เขากำเหรียญที่คนโยนให้; เราเห็นหุ่นนางเงือกแหวกว่ายอากาศเหนือโบราณสถานหักพัง อย่างไรก็ดี ทุกคนที่ให้สัมภาษณ์ล้วนแสนวิเศษและเป็นของจริง ในผลงานหยาดเหงื่อแห่งรักแท้เรื่องนี้ที่ถ่ายด้วยความละเมียดละไมและกระโจนหัวทิ่มลงไปค้นหาคุณค่าที่แท้ของศิลปะที่มีต่อจิตวิญญาณ แล้วกระทรวงวัฒนธรรมช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง? ในฉากที่ประเมินค่ามิได้ เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรมบรรยายหน้าที่อันล้นหลามของเขา: ส่งเสริมวัฒนธรรม, ดูแลพระราชพิธีด้วย, และศิลปะร่วมสมัยก็สำคัญเหมือนกัน เราจะมาหยุดนิ่งเดิมๆไม่ได้.
____________________________________________________________
เทคยัวร์สเปซ (ยึดพื้นที่!)
เช็ค
76 นาที
Karolína Alvarezทุกเฟรมของหนังสารคดีศิลปะเรื่องนี้ ถ่ายทำและตัดต่อมาอย่างละเมียดละไม เรากระโจนลงไปในโลกของกราฟิตี้และสตรีทอาร์ทของเม็กซิโก แม้นว่ามันเริ่มต้นมาจากวัฒนธรรมนำเข้าจากแคลิฟอร์เนีย มันได้งอกงามเป็นพันธุ์ผสมท้องถิ่นด้วยรากเหง้าแห่งอารยธรรมออลเม็คโบราณกาลของเม็กซิโก ในแผ่นดินที่โอบแขนต้อนรับเหล่าศิลปินกำแพง ซึ่งหลอมรวมเข้าไปในวัฒนธรรมจิตรกรรมฝาผนังเม็กซิกันที่มีอยู่แต่เดิม ซาวนด์แทร็คของหนังคือแร็พต่อต้านจ้าวโลกล่าอาณานิคม: “จำไว้ ไอ้กัน มึงปล้นแผ่นดินกูไป! มึงเรียกกูว่าผิดกฎหมาย แต่มึงเอาไปทุกอย่าง!” ในดินแดนที่ “เมฆฟุ้ง [โคเคน] แห่งเงินนำมาซึ่งห่ากระสุน” การแร็พ, เล่นสเกตบอร์ด, พ่นกราฟิตี้และเขียนสตรีทอาร์ท ไม่ใช่เพียงการทำเท่แต่เป็นความบังอาจที่กล้าหาญ โลกของเราร่ำรวยและสดใสขึ้นแค่ไหน ที่เขาเหล่านี้เลือกที่จะทาสีกำแพงแทนที่จะระเบิดกำแพง.
____________________________________________________________
ฤดูหนาวบนดาวพลูโต
สหรัฐอเมริกา
56 นาที
Riley Teahanเรามุดสะดือลือลั่นของประติมากรรมวีนัสเดอมีโล เข้าไปพบองค์เทวีในวิมานยุคดิสโก้สีชมพู อันเป็นที่คุมขังนาง (เพอร์เซฟโฟนีในตำนานกรีกเป็นลูกสาวแม่พระธรณีที่พลูโตลักพาตัวไปอยู่ยมโลกหกเดือนต่อปี ทำให้แม่ธรณีเสียใจจนเกิดฤดูหนาวที่เพาะปลูกไม่ขึ้น – แต่เราไม่ต้องไปซีเรียสมากกับตำนานเดิม เพราะดูเธอจะเป็นเทวีแห่งรักมากกว่าราชินียมโลกพาร์ทไทม์) ดิสโก้วีนัสนั่งริมหน้าต่างวงกลมหรือนั่งจ้องจอทีวีสีชมพู เฝ้ามองคู่รักบนโลกมนุษย์ มันเป็นหนังด๊านซ์ร่วมสมัย ประมาณบอลลีวู้ดเมาเห็ดวิเศษ คลาคล่ำด้วยร่างมนุษย์ทุกขนาดและสี ฉากเต้นรำทำได้ดีจริง เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ เพลงสุดท้ายมีไฟกระพริบ ซึ่งไม่ดีสำหรับผู้ที่เป็นลมชัก ซึ่งเขาว่ากันว่าควรใช้กัญชารักษา.
____________________________________________________________
อูจานสตอรี่
อาร์มีเนีย
70 นาที
Shahram Badakhshan Mehr
มันเริ่มด้วยประโยคของโจบจากคัมภีร์ไบเบิ้ล: “ข้าเคยได้ยินคำกล่าวขานถึงท่าน บัดนี้ข้าได้เห็นท่านเป็นประจักษ์” และเรารู้ว่ามันเป็นเรื่องชีวิตลำเค็ญของชาวอาร์มีเนียนในคาลาวา แต่ความจริงดังฝันพาให้ดูเพลิน ทั้งสัมผัสของหนังที่สวยงาม — สวนล้อมกำแพงที่ระย้าด้วยพวงองุ่น; ผลไม้ที่กำลังบ่มสุกบนต้นไม้ที่คนแก่คอยดูแล; เท้าเปล่าเหยียบองุ่นทำไวน์; ไฮเวย์ที่ตัดผ่านทุ่งว่างเปล่าสีน้ำตาล ที่ผืนแผ่นดินดูไหม้เป็นตอตะโกจากสงคราม; เด็กน้อยในชุดสีชมพู ดวงตาเข้มข้น ครอบครัวถูกพรากจากกันโดยการอพยพไปแสวงหาความปลอดภัยและความมั่นคงในป้อมปราการยุโรป ชีวิตดูค่อนข้างซึมเศร้า – แต่งดงามเสมอ ใช่ มันยาก แต่ก็เป็นสุขด้วย ก็ไม่เป็นไร ถ้าคิดแบบนี้ไม่ใช่แล้วอะไรคือคิดแบบพี้ ? และไม้กางเขนพระเยซูติดไฟนีออนบนยอดเขาที่ดับไป ได้รับการซ่อมแซมให้ส่องสว่างอีกครั้ง เป็นหนังหายากที่แทบจะพาเราเหาะขึ้นพรมวิเศษไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ
____________________________________________________________
อเมริกันพ็อทสตอรี่ : โอ้คสเตอร์ดาม
สหรัฐอเมริกา
96 นาที
Ravit Markus, Dan Katzir
หนังจริงจังเกี่ยวกับคนที่กล้าหาญและน่ารักอย่างจริงจัง สารคดีสำคัญเรื่องนี้บันทึกประวัติศาสตร์การเคลื่อนไหวให้กัญชาถูกกฎหมายในอเมริกา ผ่านเรื่องที่ยังไม่เคยเล่าของ ‘นายกเทศมนตรีแห่งโอ้คสเตอร์ดาม’ ริชาร์ด ลี นักเคลื่อนไหวในรถเข็นคนพิการ (ตัวอย่างคำขวัญ: “ธุรกิจคือการเคลื่อนไหวของผม”; “ละเมิดกฎหมายเพื่อแก้กฎหมาย”; “ควบคุมและคิดภาษีกัญชา”) ซึ่งเล่าโดยผู้ช่วยและผู้สืบทอด เดล สกาย โจนส์ ไคลแม็กซ์อันมืดมิดมาถึงเมื่อไม่มีตำรวจเหลือที่จะหยุดการกราดยิงสังหารหมู่ในมหาวิทยาลัยคริสเตียนใกล้ๆ เพราะตำรวจทุกคนถูกเกณฑ์ไปบุกประจัญบานมหาวิทยาลัยโอ้คสเตอร์ดามของริชาร์ด ซึ่งสอนการปลูกและก่อตั้งธุรกิจกัญชา เดล: “นี่เป็นเรื่องของการเลิกความผิดกฎหมาย พอๆกับการทำให้ถูกกฎหมาย ผู้คนถูกจับและชีวิตถูกทำลาย” การล้างบางของตำรวจและเงินที่ต้องทุ่มเทไปกับการทำพีอาร์ล็อบบี้เปลี่ยนกฎหมาย ทำให้ริชาร์ดเจ๊งหมดตัว แต่เขาก็สามารถทำให้กัญชาเข้าไปบรรจุอยู่ในการถกเถียงทางการเมืองกระแสหลัก เรากล้าพูดได้ว่าเราได้ทำให้โลกนี้ดีขึ้นกว่าตอนที่เราเกิดมา” ซึ่งพวกคุณก็ได้ทำแล้วจริงๆ ต้องขอขอบคุณ
____________________________________________________________
[All reviews by Dr Alice Skinhead unless otherwise stated]
3 โปรแกรมหนังสั้น
____________________________________________________________
หนังสั้น 1: วิญญาณสีเขียว
(79 นาที)
ลาวา แล็มป์
สโลวีเนีย
10 นาที
อลิโยชา ท็อพลัก
เอาล่ะ มันเป็นแค่สองหนุ่มคอพี้นั่งจ้องจอทีวีและโคมลาวาแล็มป์ แต่มันเป็นของแท้ไม่เทียม ทั้งแรงดึงดูดสะกดสายตาผสมแมจิกเรียลลิสม์กับแก้วน้ำผลไม้ ขณะที่ภาพมหาวิหารโบราณแล่นผ่านบนจอทีวี มันเหมือนกับคำบรรยายของหนึ่งในสองหนุ่มเกี่ยวกับโคมลาวาแลมป์: “มันแสนง่าย แต่มันครอบงำเราได้หมดเลย”
ปิรามิดเขียวเขียว The Green Green Pyramid
ไทย
23 นาที
Tony Cheung
กลุ่มนักปีนผาในเมืองไทยตัดสินใจรับคำท้าทายของที่สุดของรูท ‘เซเล่อร์มูน’ ทางไต่ผาสูงชันบนปิรามิดหินปูนและป่าดงดิบในกาญจนะบุรี ความสำเร็จทางภาพยนตร์อันเย้ยฟ้าท้าดินโดย Climbing Documentary Project เรื่องนี้ เป็นวิธีการขึ้นสูง ‘เก็ทไฮ’ แบบโหดที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง
ผีมีบุญ
ไทย
11 นาที
Kitpasit Tinnachartarak; Peerapat Singtothong; Thanarote Khaopare
อุบลราชธานี, ประเทศสยาม พ.ศ. 2444, มันคือการทำศึกระหว่างธรรมะกับอธรรม เมื่อกองทัพในเครื่องแบบทหารสมัยใหม่แบบนักล่าอาณานิคมกราดยิงคนป่าเถื่อนไร้อารยธรรม นี่น่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่เล่าถึงปรากฏการณ์ที่ตำราประวัติศาสตร์ที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐเรียกว่า ‘กบฏผีบุญ’ มาบัดนี้เราจึงได้รับรู้ว่าชื่อจริงๆ ของมันที่ยังไม่ถูกบั่นทอนคือ “กบฏผู้มีบุญ” มันไม่ใช่การ์ตูนตาโตคิกขุ แต่เป็นลูกผสมระหว่างศิลปะวิดีโออาร์ทแนวเอ็กซ์เปรสชั่นนิสท์ชั้นเลิศ กับเสียงกรีดร้องต่อต้านความเท็จของโฆษณาชวนเชื่อส่วนกลาง – เสียงกรีดร้องเรียกหาความเป็นธรรมจากความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ หนังถ่ายทอดองคาพยพแห่งโฆษณาชวนเชื่อของเผด็จการออกมาได้อย่างแม่นยำและชวนขนลุก เช่นเดียวกับฉากในศาลยุติธรรมที่บัลลังก์ผู้พิพากษาเป็นเพียงร่างสีขาวตัวเล็กๆ ที่จางหายไป
ปลูกต้นไม้ ปลูกธรรม: พระไพศาล วิสาโล
ไทย
10 นาที
พิชัย ภู่สัมพันธ์
ความงดงามและความจริงใจทำให้หนังเรื่องนี้มีคุณภาพเหนือ “โฆษณาชวนเชื่ออนุรักษ์ป่าและพุทธศาสนา” ที่คุ้นชิน กล้องมองทุกสิ่งด้วยสายตาของรัก อีกทั้งจังหวะของหนังที่เหมือนการเดินธุดงค์ มันเป็นหนังพี้ยังไงเหรอ? คุณจะเอาอะไรอีก: หนังเรื่องนี้สีเขียว เยียวยา และดูเพลิน
ประตู (The Door)
โรเมเนีย
13 นาที
Alessandro Cubicciotti
ชายคนหนึ่งเปิดประตูเดินผ่านเข้าไปในวังวนพิศวง ความน่ากลัวและการหลุดพ้นพร้อมๆกัน บอกเราว่านี่เป็นหนังเกี่ยวกับความงุนงงหลังการตายโดยไม่คาดฝัน และการยอมรับชะตากรรมในที่สุด ไร้คำพูดแต่ชัดแจ้งแจ่มจ้าดังแก้วผลึก.
หัวในหมู่เมฆ (Head in the Clouds)
เยอรมัน
12 นาที
Moritz Göbel
หนังขาวดำเรื่องนี้เยอรมันมากๆ ในความหมายที่ดีที่สุด ประมาณเบบี้ ‘เมโทรพอลิส’ มันคือประสบการณ์ของการตายหรือไม่ก็การตรัสรู้โดยไม่คาดฝัน แล้วแต่ว่าหัวใจของเราจะเห็นเป็นอย่างไหน: เธอรู้จักฉัน – เธอรู้ว่าฉันคือใคร – คือเธอ.
____________________________________________________________
หนังสั้น 2: หน้าไหว้หลังหลอก & เสรีภาพ
(122 นาที)
ฟาเทีย ผู้พิชิต
ตุรกี
15 นาที
Onur Yagiz
มันคือมหกรรมกรีดร้องหาเสรีภาพจากตะวันออกกลาง ซึ่งถากถางทัศนคติเหยียดผู้หญิงได้อย่างแม่นยำและไม่ปราณี เมื่อหนุ่มโสดในงานแต่งงานพากันปลีกวิเวกมาดูดกัญชาในรถที่จอดอยู่ การเม้าท์ที่ทั้งสะใจและระคายหูก็เริ่มต้น.
อาเต้ โอ.จี.
ฟิลิปปินส์
17 นาที
เคฟวิน มายุกา
โควิดล็อคดาวน์บังคับให้คนรับใช้แม่บ้านนามว่า ‘อาเต้’ ติดกับอยู่ในบ้าน 24 ชั่วโมงต่อวันกับเด็กวัยรุ่น 2 คนที่เอาแต่ใจตัวเอง มัน 2 ตัวจิกหัวใช้อาเต้อย่างไม่ปราณี ทำให้เราเกลียดคนรวยฉิบหาย แต่เมื่อเธอพบกัญชาซุกซ่อนอยู่ในห้องของคุณหนูผู้ชาย การเอื้อเฟื้อแบ่งปันก็เกิดขึ้น หนังเรื่องนี้เดาไม่ได้ และไม่ตัดสินกันอย่างง่ายๆ.
แม่บ้าน
ไทย
20 นาที
ปราชญ์ โรจนสินวิไล
แม้ว่าชนชั้นเป็นเนื้อหาหลักของน้ำเน่าไทย ในการสำรวจสัมพันธภาพระหว่างชนชั้นที่สมจริงกว่าในเรื่องนี้จงใจเรียกน้ำตาเราด้วยความจริงใจอย่างไม่ละอาย โดยเฉพาะสำหรับคนที่เคยใกล้ชิดสนิทแนบกับพี่เลี้ยงคนพิเศษ และพี่เลี้ยงคนพิเศษที่เคยสนิทกับเด็ก ใช่แล้ว หนังเรื่องนี้ไม่มีกัญชา แต่มันเข้ากับหนังฟิลิปปินส์ในเทศกาลที่เกี่ยวกับแม่บ้านและมีกัญชา
หัวใจข้ามทะเลทรายวิ่ง
เยอรมัน
15 นาที
แกรี่ วานีเซียน
ทั้งผู้ถูกกดขี่: ตัวอย่างสมบูรณ์แบบของนักกีฬาหญิง ผู้ถูกสั่งห้ามมีเพศสัมพันธ์ และแท่งดำทมึนไร้ศีรษะที่กดขี่เธอ ล้วนมีความหมายไกลกว่าเขตแดนแห่งฝันร้ายของนักทำหนังชาวเยอรมัน ขณะที่นางปลอมแปลงตนในเดรสกำมะหรี่สีแดงฉาน เพื่อที่จะมุดพุ่มไม้เข้าไปช่วยตัวเองกลางทุ่งดอกป๊อปปี้ – ดอกไม้แห่งเลือดและสงคราม.
กลิ่นนั้น
ไทย
11 นาที
ณัฏฐ์ธร กังวาลไกล
ใครบางคนเอาเทปแปะมวนกัญชาไว้ใต้ – โต๊ะนักเรียน? เปล่าเลย มันคือโต๊ะมุมห้องโถงในบ้านของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง คุณผัวแอบย่องออกไปดูดปุ๊นหลังบ้านรกๆ ไร้บรรยากาศ ไร้วิวทิวทัศน์ ส่วนคุณเมียแอบสูดดมเสื้อผ้าของผัว เพื่อสืบหากลิ่นอายของความผิดปกติ “มันมีพิรุธ” เธอบอกใครบางคนทางโทรศัพท์ “อยู่ๆ มันก็ใช้น้ำหอม” เทคนิ่งยาวและสิ่งแวดล้อมที่จืดชืดอย่างแน่วแน่ ตามแบบแม่พิมพ์ภาพยนตร์ศิลปะชั้นสูงของฝรั่ง อาจทำให้บางคนถอดใจ แต่สิ่งที่มันบอก (หรือระบายออกมา) เกี่ยวกับการใช้ชีวิตหน้าไหว้หลังหลอกนั้น เป็นหมัดมวยไทยๆ ที่หนักใช้ได้เลย.
ลูเชีย
สโลเวเนีย
24 นาที
มิคูลาส คริสปิน อิซดินสกี้
นักแสดงหญิงวัยใกล้ทองผู้มีลูกสาวที่ติดโทรศัพท์งอมแงมและสามีบ้ากังฟู อยู่มาวันนึงเกิดนึกขึ้นได้ว่า “ฉันไม่ต้องห่วงว่าใครจะคิดยังไงอีกแล้ว” ได้ฤกษ์ลองของใหม่ ‘ลูเชีย’ เป็นหนังมือเบาที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์.
ดาหลาสีม่วง
ไทย
20 นาที
ปริม วิพาวีร์ พัทธ์ณศิริ
“ฉันไม่เคยได้ยินแม่พูดภาษาแม่เลย” – เรื่องของหญิงสาวผู้เป็นผลผลิตของสองวัฒนธรรม จากพ่อแม่ที่ได้กันโดยที่ครอบครัวต่างไม่พอใจ (ไทยกับมาเลย์ น่าจะหมายถึงพุทธกับมุสลิม) มีภาพงดงามในสายธารแห่งภวังค์เรื่องนี้ ซึ่งแหกอกออกมาด้วยเสียงแผดร้องจากกลางดวงใจ ด้วยรักแด่ “ประเทศห่าๆ” ของเรา.
____________________________________________________________
หนังสั้น 3: บ้าเพราะเธอ
(94 นาที)
คืนหวีดสยองฟัดหัวใจให้โลกตะลึง
ไทย
30 นาที
Peeranat Pattamawiphak
ไหนจะ “ป่าไผ่จำลองจิตที่ปราณเราสร้างขึ้นมาสำหรับฝึกกังฟู”; สาวหน้าใสในชุดกังฟูสีขาว; “เจสันจีนแดง” ในหน้ากากผีตาโขน; ไหนจะวิญญาณอาฆาตหน้าแหกและการเอ่ยถึง “ไอ้ปรางที่เอาเม็นมาวาดรูป” ใครเลยจะเมินหนังเรื่องนี้ได้? แถมด้วยปรัชญาลึกซึ้งก้องจักรวาล: “แก่นแท้ของกังฟูไม่ได้อยู่ที่การชนะศัตรู แต่อยู่ที่การชนะหัวใจตัวเอง” และ “มันไม่ใช่เรื่องของอำนาจนอกกาย แต่เรื่องของหัวใจที่สงบ”
มัดดี้ไปมหา’ลัย
สหรัฐอเมริกา
11 นาที
Alex Reinhard
หมาอัจฉริยะพูดได้ หนีออกจากกรงในห้องทดลอง (ในโรงรถ) ของนักวิทยาศาสตร์สติแตก บางคนบอกว่ามันคือ “ลูกผสมระหว่าง ‘เบโธเวน’ กับ ‘โฮมอโลน’ แถมหมาเล่นได้ดีมาก
มายเบสท์เฟรนด์ My Best Friend
ไทย
11 นาที
Meisa Jane Siridamrongphun
ในออฟฟิศบริษัทซอฟท์แวร์ ทุกคนกังวลว่ากำลังจะตกงานเพราะ AI เราไม่เห็นหน้าคน เห็นเพียงพุงของเหล่าชายวัยกลางคนที่ฝันดับแล้ว ขณะที่ซีซี หุ่นยนต์ AI ที่ผลิตขึ้นเองด้วยวัสดุรอบข้าง เริ่มงอกมือยางและอื่นๆ – ออกมา ทั้งภาพและเสียงจืดชืดอย่างตั้งอกตั้งใจ
เบอร์กัส ชาน หนุ่มเอเชียยอดสำอางค์
ญี่ปุ่น
25 นาที
โยชิ แม็กซ์
การผจญภัยบ้าระห่ำอีกครั้งสำหรับแฟนๆ ของโยชิ แม็กซ์ในกรุงเทพ เมื่อเบอร์กัส ชาน หมาพิทักษ์สัตว์ป่าเดินทางไปพบกับจูโน หญิงสาวในเดรสเลื่อมสีปะการังในประเทศอิตาเลีย “ไอติมคือทางออกสำหรับทุกปัญหา” นางว่า ขณะที่พระพุทธรูปทองเสกเขาทั้งสองเข้าไปในวังวนจิตหลอน จนพบว่ากำลังยืนอยู่บนชายหาดหินในเมืองไทย แม้ว่ามันไม่โลกาวินาศสันตะโรเท่ากับเรื่องก่อนๆ ของเขา ทั้งขาดเรื่องราวที่ติดตามได้ชัดเจน แต่ภาพบางภาพและบางประโยคที่หลอมรวมธาตุแท้แบบน้ำเน่าของทุกสรรพสิ่ง ยังสามารถแอบแทงหัวใจเรา(“เรือผีสิงแห่งญี่ปุ่น ศพซามุไรนอนตายอยู่ใกล้ๆ”) และแมงมุมยักษ์สีแดงที่โฉบเอาที่รักของเขาข้ามทะเลไปในถุงไข่
พาส อิน ซิทู
จีน
17 นาที
John Cheung
ในเมืองที่กำลังถูกทุบทิ้งเพื่อการพัฒนา ช็อตกว้าง นิ่ง ทำให้สถานที่จริง – พื้นเรียบสีเขียวสดของโต๊ะสนุ๊ก, เพิงขายผลไม้ข้างถนนยามค่ำคืน เป็นต้น – กลายเป็นฉากละครเวทีสำหรับความบ้าคลั่งของชีวิต – ซึ่งกำลังวิ่งลับตาไปจากพ่อพวงมาลัยชายหนุ่มไร้ประโยชน์ที่ใช้ชีวิตครึ่งเป็นครึ่งตาย ไม่มีโคลสอัพจนกระทั่งเขากินแตงโม คลุกเคล้าด้วยรสเค็มของน้ำตาตัวเอง
______________________________
[All reviews by Dr Alice Skinhead unless otherwise stated]
______________________________
บรรยากาศงานประกาศรางวัลปีแรก :
For more information
please contact:
096 112 2601