.
คุณอาจไม่ต้องเป็นกัญชาชน จึงจะเข้าใจได้ว่าทำไมสารคดีเรื่องสงครามระหว่างพระน้ำดีกับพระน้ำเลว เพื่อชิงจิตวิญญาณพม่า ถึงได้รางวัลยอดหนังพี้สยองขวัญ ซึ่งเป็นรางวัลเฉพาะกิจที่คิดค้นขึ้นมาสำหรับ ‘สเปซเบิร์ธ 2’ ในปี 2565 อย่างไหนน่ากลัวกว่ากัน จู๋เยอรมันกุดกลางอวกาศ หรือพระพม่าที่เทศน์ว่าฆ่าแกงศัตรูของรัฐไม่บาป?
.
หลังงานประกาศรางวัลกัญชาทองคำ ขณะที่นั่งจมในหมอนบีนแบ้ก อาบแสงเคลื่อนไหวจากจอฉายกลางแปลงใต้ถุนโรงหนัง จิบปุ๊นพลางดูหนังพี้รายการสุดท้ายอันค่อนข้างมืด (หนังสั้น 4: เขตสงคราม) ฉันเกิดท่วมท้นด้วยความรู้ซึ้งแน่แท้ว่าใจที่เป็นสุขนั้นมันสำคัญแค่ไหน – การได้ทำสิ่งที่เป็นสุขกับคนที่เป็นสุขและปรารถนาดี; การได้มาอยู่ตรงนี้ในเวลานี้ นั่งดูหนังเรื่องเดียวกัน ได้ฝันไปด้วยกัน มันคือเทศกาลภาพยนตร์ที่เป็นเสมือนช่อดอกกัญชา ที่หอมและหึ่งไปด้วยเพื่อนทั้งใหม่และเก่า ที่มาพบกัน มาให้แรงบันดาลใจและกำลังใจกันและกัน
.
ไฮไลท์ทางอารมณ์น่าจะเป็นการซูมพูดคุยกับผู้กำกับ คริสเตียน ลินาบาน ซึ่งกำลังขอลี้ภัยในต่างแดน หลังจากตำรวจก่อกวนครอบครัวของเขา อันเป็นผลกระทบจากการสร้างและ – ร้ายกว่านั้น – การฉาย ‘ซูเปอร์ไซโคเซบู’ ‘หนังยาเสพติด’ ในประเทศที่นายก ดูเตอร์เต กำลังทำสงครามยาเสพติด ภาพยนตร์เรื่องนี้ชิงชนะรางวัลกัญชาทองคำในปี 2562 คือเป็นเรื่องแรกที่ชนะในเทศกาลครั้งแรก และได้กลายมาเป็นหนังพี้คัลท์ของกัญชาชนทั่วโลก ขอให้โชคดีนะเพื่อน เราจะกอดคุณไว้แน่นๆ ในใจเรา
.
เราต้องขอบคุณทุกคนที่มาบรรจบกันอย่างเป็นสุขและช่วยกันทำให้มันเป็นไปได้ รวมทั้งสปอนเซอร์รายแรกของเรา คือ ไทยสติ๊ก Thai Stick Co., Ltd. ที่มาแจกตัวอย่างฟรีชั้นเลิศแก่ผู้กำกับและคนดู สำคัญที่สุดคือ ขอบคุณนักทำหนังทุกคนสำหรับหนังพี้น่ามหัศจรรย์ของคุณ ซึ่งหมายความว่าการแข่งขันปีนี้โหดหินกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา กรรมการถกเถียงไม่จบว่าใครชนะ เพราะคะแนนสูสีกันสุดขีด สุดท้ายปีนี้เราจึงมีรางวัลพิเศษของกรรมการให้ถึงสามเรื่อง ข้างล่างนี้คือรายนามผู้ชนะรางวัลที่ประกาศเมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์ 10 พ.ย.) ที่ ซิเนม่าโอเอซิส โดยไทยกัญชาไอคอนพี่เปี๊ยก เล็กฮิป อย่างตะกุกตะกักแต่เท่แบบไม่ต้องทำเท่ของแก พี่เปี๊ยกบินจากปายมานั่งเล่นกับเราตลอดเทศกาลมหัศจรรย์หนังพี้
.
.
‘ไบออนิโค’ส บาชาตา’
โดยผู้กำกับ โยเอล โมราเลส จากโดเมนิกัน รีพับลิก
สำหรับการถ่ายทำหนังที่ล้ำหน้าลำยุค
และตัวละครที่ไม่เคยเจอมาก่อน
.
‘บราเธอร์ส ฮอร์น’
โดยผู้กำกับ มาจิด อซาดิ จากอิหร่าน
สำหรับโทสะจริตอันแปลกประหลาดละเมียดละไม
(*เดิมเป็นรางวัลบ้องแก้ว แต่ต้องเปลี่ยนเพราะความลำบากในการส่งรางวัลให้ผู้ชนะจากประเทศที่ต่อต้านกัญชา)
.
‘เว็นดิสอิสโอลโอเวอร์ (ไว้เมื่อทุกอย่างจบ)
โดยผู้กำกับ เคฟวิน มายุกา จากฟิลิปปินส์
สำหรับสงครามชนชั้นและอารมณ์อันเข้มข้น
.
‘เว็จตเบิ้ลโอนลี่เซอร์’ (แค่ผักธรรมดาครับท่าน)
โดยผู้กำกับ บีซี อัมพาราโด จากฟิลิปปินส์
ซึ่งล้อเลียนสงครามยาเสพติดได้อย่างกล้าหาญ
.
‘ฟอเร็สท์แอทไนท์’ (ป่ากลางคืน)
โดยผู้กำกับ มอริทซ์ เกอร์เบล & ลูคา สต็อร์ช
สำหรับการทำหนังพาหลอนของจริง
.
‘มังค์สแอนด์เจ็นเนอรัลส์’ (พระสงฆ์กับนายพล)
โดยผู้กำกับ ‘เบอร์มา แบร์’
(*ให้ครั้งสุดท้ายกับ ‘สเปซเบิร์ธ 2’)
.
‘เวิร์ลด์เนคิดไบค์ทัวร์’ (ทัวร์แก้ผ้าปั่นจักรยานแห่งโลก)
โดยผู้กำกับ วิลเลียม แบรดฟอร์ด จากคานาดา
.
‘บับเบลอร์’
โดยผู้กำกับ นิโคลัส จิออมบิ จากอเมริกา
.
‘ร่างอันตรธาน’
โดยผู้กำกับ ปวเรศ ออมพัฒนกิจ จากเมืองไทย
ที่กล้าสำรวจดินแดนที่หนังไทยไม่กล้าเหยียบย่าง
.
‘เด้ด เด้ด ฟูลเด้ด’ (ตาย ตาย เต็มตาย)
โดยผู้กำกับ ประทุล ปันดิก กายควาด จากอินเดีย
.
น่าสนใจมั้ยว่าหนังที่ทำให้ทุกคนหัวเราะน้ำตาไหลคือ ‘ตายตายเต็มตาย’ อันว่าด้วยความเพียรพยายามฆ่าสิ่งที่ฆ่าเท่าไหร่อย่างไรก็ไม่ตาย ไม่ว่ามันจะน่ารำคาญ ต่ำทรามหรือเสแสร้งสักเพียงใด ในยามนี้ มากกว่าทุกนาทีในช่วงชีวิตของเรา สิ่งที่โลกนี้จำเป็นต้องมีคือ ‘รัก’ เราชาวกัญชาชน (และชาวภาพยนตร์) คือรักและเยียวยา ดังนั้น อย่าทำสงครามกับเราเลย สันติ สันติ สันติ อย่าแบนกัญชาหรือหนังอีกเลย
*รัก* คือคำตอบทุกสิ่ง
(ดร.) อลิศ กินเห็ด
ผู้จัดโปรแกรม มหัศจรรย์หนังพี้